CMMU ชี้กลยุทธ์เจาะตลาดสินค้าแม่และเด็ก แนะเป็นโอกาสทำตลาด SME

     วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ชี้สินค้าเด็กยังเติบโต เป็นโอกาสของSME ในการทำตลาด สำหรับยุคคุณแม่ดิจิตอลช่างเลือก เผยกลุ่มคุณแม่นิยมใช้เฟซบุ๊กค้นหาข้อมูลเรื่องลูกถึง 57% ทั้งยังมองเรื่องเพศที่สามของลูกเป็นเรื่องปกติยอมรับได้...

     วันที่ 7 ก.ย.60 ที่ อาคารมิว วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล อาจารย์สุพรรณี วาทยากร อาจารย์สาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กล่าวว่า ตลาดสินค้าสำหรับแม่และเด็กในประเทศไทยมีการแข่งขันสูงอย่างต่อเนื่อง โดยการคาดการณ์ของ รักลูก กรุ๊ป ถึงมูลค่าตลาดสินค้าแม่และเด็ก มูลค่าถึง 34,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่สนใจของธุรกิจ SME ในการแทรกเข้าไปทำตลาด

     นางสาวภิญญาพัชร์ ศิริพันธ์ภักดี นักศึกษาปริญญาโท สาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ เป็นตัวแทนเผยถึงงานวิจัย Digital Mom-keting การตลาดคลิกพิชิตใจคุณแม่ว่า ปัจจุบันกลุ่มคุณแม่นิยมใช้เฟซบุ๊กถึง 57% ในการค้นหาข้อมูลเรื่องลูก รองลงมา คือค้นหาจากกูเกิล 23% และเข้าเว็บไซต์ที่ชอบโดยตรง 7% สำหรับสินค้าที่ซื้อผ่านออนไลน์มากสุดคือ ของใช้สำหรับเด็ก ตามด้วยของเล่นเด็ก และ ผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคลสำหรับเด็กตามช่วงอายุ

นางสาวภิญญาพัชร์ ศิริพันธ์ภักดี

สำหรับลูกดาราที่มีอิทธิพลในการซื้อสินค้าสำหรับกลุ่มคุณแม่มากที่สุด คือ น้องเป่าเปา ตามด้วย น้องอลินอลัน และน้องมะลิ นอกจากนี้ พฤติกรรมเชิงลึกของคุณแม่ มักเริ่มหาข้อมูลผ่านออนไลน์ตั้งแต่ตั้งครรภ์ และยังนิยมเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นระยะสั้นเพียง 3 เดือน เนื่องจากต้องกลับมาทำงานประจำ ไม่สะดวกเรื่องเวลา

เรื่องที่กลุ่มคุณแม่ให้ความสำคัญที่สุดก็คือ เรื่องพัฒนาการของลูก มีการซื้อของเล่นที่เน้นพัฒนาทักษะและสมอง ที่สำคัญคืออยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ คุณแม่ส่วนใหญ่จึงเปิดการ์ตูนจากยูทูบและเพลงภาษาอังกฤษให้ลูกฟังตั้งแต่ยังเด็ก นอกจากนี้ยังต้องการให้ลูกเรียนโรงเรียนสองภาษา และที่คัญคือโรงเรียนต้องไม่ไกลจากบ้าน

จากงานวิจัยยังพบอีกว่า คุณแม่ไม่นิยมซื้ออาหารเสริมสำหรับเด็ก แต่จะทำเอง เพราะเชื่อในคุณภาพมากกว่า ทั้งยังพบว่า ปัญหาสำคัญของคุณแม่ชาวไทยคือ มักไม่มีน้ำนม ซึ่งเป็นช่องว่างทางการตลาดที่น่าสนใจ ส่วนทัศนคติทางเพศพบว่า กลุ่มคุณแม่มองเรื่องเพศที่สามไม่ใช่เรื่องผิดปกติ และสามารถยอมรับได้

อย่างไรก็ตาม เรื่องการทำการตลาดออนไลน์สำหรับกลุ่มคุณแม่ นักศึกษาปริญญาโท สาขาการตลาด ได้ทำการวิเคราะห์ผลสำรวจดังกล่าว และสามารถสรุปออกมาเป็นกลยุทธ์ 5 ข้อ ภายใต้คอนเซ็ปต์ CLICK ดังนี้

C = channel มีช่องทางสร้างความรับรู้ที่ครบถ้วน และทราบว่าแต่ละช่องทางมีบทบาทอย่างไรที่จะทำให้กลุ่มคุณแม่รับรู้

L = Long tail key word เพื่อให้แบรนด์ของคุณถูกค้นพบในช่วงที่กลุ่มคุณแม่กำลังค้นหาข้อมูล long tail เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่เหมาะสมกับการตลาดกลุ่มคุณแม่ เพราะมีพฤติกรรมการหาข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น

I = Insight หากต้องการเข้าไปอยู่ในใจคุณแม่ ต้องค้น insight ให้เจอ และสร้างคอนเทนต์ให้ตรงกับ insight นั้น

C = completed data ในช่วงเวลาที่คุณแม่จะตัดสินใจซื้อสินค้า เขาต้องการข้อมูลของสินค้าที่ครบถ้วน เพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในการเลือกสิ่งที่ดีที่สุด

K = Keep in touch ในส่วนสุดท้ายที่จะทำให้คุณแม่บอกต่อหรือแนะนำสินค้าให้กับคนอื่นๆ เราต้องใส่ใจเขา ดูแลเขาอย่างดี ตั้งแต่การเลือกสินค้าที่ได้คุณภาพและการให้บริการที่ตรงใจ.

ที่มา : https://www.thairath.co.th/content/1063029