"โอโฟ่"เร่งบุกตลาดไทย ส่งจักรยานไฟฟ้าจับลูกค้ารัฐ-เอกชน
- หมวด: Innovation
- เผยแพร่เมื่อ: วันพุธ, 21 February 2561 05:41
- เขียนโดย Marketing
- ฮิต: 10
"โอโฟ่"ยักษ์ใหญ่จากจีนขยายฐานบุกตลาดจักรยานไฟฟ้าในไทย ลั่นปีนี้ครอบคลุมหัวเมืองใหญ่ นายนพพล ตู้จินดา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โอโฟ่ ประเทศไทย เปิดเผยว่า โอโฟ่ (OFO) เป็นผู้ให้บริการจักรยานสาธารณะอัจฉริยะครอบคลุม
นายนพพล ตู้จินดา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โอโฟ่ ประเทศไทย เปิดเผยว่า โอโฟ่ (OFO) เป็นผู้ให้บริการจักรยานสาธารณะอัจฉริยะครอบคลุม 250 เมือง 20 ประเทศทั่วโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน สำหรับประเทศไทยได้เปิดให้บริการเมื่อเดือน ส.ค. 2560 ปัจจุบันมีจำนวนจักรยานไฟฟ้าให้บริการเกือบ 1 หมื่นคันใน 12 มหาวิทยาลัย และพื้นที่ 16 จังหวัด พร้อมตั้งเป้า 3 ปีจากนี้จะเพิ่มจำนวนเป็น 1 แสนคันทั่วประเทศ
สำหรับปี 2561 เตรียมขยายพื้นที่การบริการให้ครอบคลุมหัวเมืองใหญ่ไม่ว่าจะเป็น จ.ชลบุรี ขอนแก่น เชียงราย โคราช เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีแผนร่วมกับภาครัฐและเอกชนในการส่งเสริมพร้อมให้บริการแชร์จักรยานอัจฉริยะ ซึ่งขณะนี้เจรจากับกรุงเทพมหานคร คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้
รวมทั้งเพิ่มจำนวนมหาวิทยาลัย เช่น มหาวิทยาลัยรังสิต ฯลฯ และล่าสุดเตรียมให้บริการในพื้นที่บริษัท ปูนซิเมนต์ไทยบางซื่อ อีกทั้งโครงการที่อยู่อาศัยของบริษัท แสนสิริ เช่น ฮาบิโตะคอมมูนิตี้มอลล์ และ 8 โครงการบ้านเดี่ยวในกรุงเทพฯ รวมทั้งอีก 2 โครงการที่ จ.ภูเก็ต
“จักรยานโอโฟ่ที่นำเข้ามาให้บริการในไทยเป็นรุ่น Smart Lock ใหม่ล่าสุดที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้งานในประเทศไทยโดยเฉพาะที่มาพร้อมฟังก์ชั่นพิเศษคือ ระบบล็อกอัจฉริยะทำงานผ่านแอพด้วยระบบบลูทูธ เพียงสแกนคิวอาร์โค้ดบนจักรยานก็สามารถปลดล็อกได้ทันที และระบบจีพีเอสช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาและจอดจักรยานได้สะดวก ทั้งนี้ผู้ใช้บริการเพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นโอโฟ่ โดยปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้งานแอพเกือบ 1 ล้านคน สำหรับอัตราค่าบริการ 5 บาท/30 นาที” นายนพพล กล่าว
ปัจจุบันในแต่ละวันมีจำนวนการใช้บริการทั่วโลกสูงถึง 32 ล้านครั้ง/วัน และมีจำนวนการใช้งานรวมแล้วกว่า 5,000 ล้านครั้ง รวมระยะการเดินทางสะสม 1,200 ล้านกิโลเมตร ลดปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึง 84 ล้านลิตร
ทั้งนี้ จากกระแสตอบรับที่ดีในพื้นที่ปิดทำให้บริษัทเร่งขยายออกสู่พื้นที่เปิดมากขึ้น เชื่อว่าดีมานด์ผู้ใช้จักรยานมีมากในหลายๆ พื้นที่เพราะเทรนด์นี้เป็นที่นิยมของไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ โดยบริษัทตั้งเป้ามีผู้ใช้บริการ 10% ของประชากรในอนาคต
ที่มา https://www.posttoday.com/market/news/540916